-
วิธีการแก้ไขการตั้งค่าไฟล์บันทึกการเก็บถาวรของระบบในฐานข้อมูล Oracle
-
ปกป้องฐานข้อมูลของคุณ ปลอดภัยให้ธุรกิจของคุณ
-
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ไขการเก็บถาวรของระบบ
-
บทสรุป
ใน Oracle Database ไฟล์บันทึกเก็บถาวร (archive logs) เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือและการคงอยู่ของข้อมูล โดยเฉพาะเมื่อมีการสำรองข้อมูลและกู้คืนฐานข้อมูล เพื่อตอบสนองความต้องการในการสำรองข้อมูลและกลยุทธ์การจัดเก็บที่แตกต่างกัน ผู้ดูแลระบบมักจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบและเส้นทางการจัดเก็บของไฟล์บันทึกเก็บถาวร
การตั้งค่าพารามิเตอร์เหล่านี้อย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยปรับปรุงความสามารถในการกู้คืนจากความล้มเหลวของฐานข้อมูล แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรจัดเก็บข้อมูลอีกด้วย บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง archivelog ของฐานข้อมูล Oracle อย่างเป็นลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจสอบว่าฐานข้อมูลอยู่ในโหมด archive หรือไม่ การแก้ไขรูปแบบของบันทึกการเก็บถาวร การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการจัดเก็บบันทึกการเก็บถาวร และในที่สุดคือการรีสตาร์ทฐานข้อมูลเพื่อให้การตั้งค่าใหม่มีผล ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณสามารถจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายการบันทึกการเก็บถาวรสำหรับฐานข้อมูล Oracle ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการแก้ไขการตั้งค่าไฟล์บันทึกการเก็บถาวรของระบบในฐานข้อมูล Oracle
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบว่าฐานข้อมูลอยู่ในโหมดการเก็บถาวรหรือไม่
ยืนยันว่าเปิดใช้งานโหมดการเก็บถาวรในฐานข้อมูลแล้ว โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้:
SQL> archive log list;
ผลลัพธ์ควรจะมีลักษณะคล้ายกับสิ่งนี้:
Database log mode Archive Mode Automatic archival Enabled Archive destination USE_DB_RECOVERY_FILE_DEST Oldest online log sequence 3 Next log sequence to archive 5 Current log sequence 5
ขั้นตอนที่ 2 เปลี่ยนรูปแบบไฟล์บันทึกเก่า
รูปแบบเริ่มต้นคือ %t_%s_%r.dbf มาเปลี่ยนรูปแบบเป็น %t_%s_%r.arch กัน ซึ่งเป็นพารามิเตอร์แบบคงที่ ดังนั้นจำเป็นต้องรีสตาร์ทฐานข้อมูลเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
ตรวจสอบรูปแบบปัจจุบันก่อน
SQL> show parameter log_archive_format;
คุณควรจะเห็นสิ่งที่คล้ายกับนี้:
NAME TYPE VALUE ------------------------------------ ----------- ------------------------------ log_archive_format string %t_%s_%r.dbf<br>
จากนั้นใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อแก้ไขรูปแบบบันทึกเก็บ
SQL> alter system set log_archive_format='%t_%s_%r.arch' scope=spfile;
ขั้นตอนที่ 3 แก้ไขเส้นทางการบันทึก log
ตรวจสอบเส้นทางการบันทึก log ปัจจุบันก่อน
SQL> show parameter DB_RECOVERY_FILE_DEST;
ผลลัพธ์ควรแสดงดังนี้:
NAME TYPE VALUE ------------------------------------ ----------- ------------------------------ db_recovery_file_dest string /oracle/app/fast_recovery_area db_recovery_file_dest_size big integer 4182M
ถัดไป ให้แก้ไขเส้นทางการจัดเก็บบันทึกการจัดเก็บ:
SQL> alter system set log_archive_dest_1 = 'location=/data1/arch' scope=spfile;
ขั้นตอนที่ 4 เริ่มต้นฐานข้อมูลใหม่เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
หลังจากทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้ว ให้เริ่มต้นฐานข้อมูลใหม่เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงไปใช้ จากนั้นสลับบันทึก (logs) ด้วยตนเองเพื่อยืนยันว่ามีการสร้างอย่างถูกต้องหรือไม่:
alter system switch logfile;
ปกป้องฐานข้อมูลของคุณ ปลอดภัยให้ธุรกิจของคุณ
เมื่อจัดการและสำรองข้อมูลฐานข้อมูล สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจในความปลอดภัยและการกู้คืนข้อมูลของคุณ Vinchin Backup & Recovery มีโซลูชันการสำรองข้อมูลและการกู้คืนฐานข้อมูลที่ทรงพลัง รองรับฐานข้อมูลหลากหลายประเภท ได้แก่ Oracle DB, MySQL, SQL Server, PostgreSQL, Postgres Pro และ MariaDB ซึ่งช่วยปกป้องระบบฐานข้อมูลที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องจริงและเครื่องเสมือน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมใด
หนึ่งในจุดเด่นของ Vinchin คือกลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยลดขนาดของการสำรองข้อมูลฐานข้อมูลได้เกือบ 70% โดยไม่ต้องใช้ CPU ของสภาพแวดล้อมการผลิต คุณสมบัตินี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำรองอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการสำรองข้อมูล และลดผลกระทบจากการดำเนินการสำรองข้อมูลต่อประสิทธิภาพของระบบให้น้อยที่สุด
นอกจากนี้ Vinchin ยังรองรับการสำรองข้อมูลแบบฮ็อตที่มีประสิทธิภาพสำหรับ MySQL, SQL Server และ Oracle โดยรับประกันว่าการดำเนินงานปกติของฐานข้อมูลจะไม่ได้รับผลกระทบระหว่างกระบวนการสำรองข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการสำรองข้อมูลแบบเต็มรูปแบบ แบบต่าง แบบเพิ่มเติม หรือบันทึกธุรกรรม Vinchin มีกลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่ยืดหยุ่นให้คุณสามารถตั้งแผนการสำรองข้อมูลตามความต้องการจริงของคุณ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลและความต่อเนื่องทางธุรกิจ
การดำเนินงานของ Vinchin Backup & Recovery นั้นง่ายมาก เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ
1. เลือกฐานข้อมูลบนโฮสต์เท่านั้น

2. จากนั้นเลือกปลายทางสำหรับการสำรองข้อมูล

3. เลือกกลยุทธ์

4. ในที่สุด ส่งงาน

Vinchin Backup & Recovery เป็นโซลูชันการสำรองข้อมูลฐานข้อมูลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจและองค์กรทุกขนาด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล เนื่องจากสามารถปกป้องความปลอดภัยของฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการสำรองข้อมูลได้อีกด้วย เพื่อช่วยให้คุณได้สัมผัสกับศักยภาพของผลิตภัณฑ์นี้ เราได้เตรียมทดลองใช้งานฟรี 60 วันไว้ให้ เพื่อให้คุณสามารถทดสอบการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง และสัมผัสกับความสามารถในการสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลด้วยตัวเอง
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือทดลองใช้งานฟรี โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา และเราจะให้บริการสนับสนุนทางเทคนิคและบริการระดับมืออาชีพ เพื่อช่วยให้คุณได้ใช้ประโยชน์จาก Vinchin Backup & Recovery ได้อย่างเต็มที่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ไขการเก็บถาวรของระบบ
คำถามที่ 1. การดำเนินการคำสั่งนี้มีผลต่อประสิทธิภาพของฐานข้อมูลอย่างไร?
การดำเนินการคำสั่งนี้จะทำให้ฐานข้อมูลหยุดพักการประมวลผลคำขอของผู้ใช้ชั่วคราว จนกว่าจะจัดเก็บบันทึกที่ระบุทั้งหมดเรียบร้อย สิ่งนี้อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงชั่วคราวหรือเวลาตอบสนองเพิ่มขึ้น
คำถามที่ 2. สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมการผลิตได้หรือไม่?
ได้ แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังในสภาพแวดล้อมการผลิตที่มีภาระงานสูง โดยควรใช้ในช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้
บทสรุป
การปรับเปลี่ยนการบันทึกประวัติระบบอย่างเหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการกู้คืนข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลได้ โดยการปรับรูปแบบและเส้นทางของล็อก และดำเนินการสำรองข้อมูลเป็นประจำด้วย Vinchin Backup & Recovery คุณสามารถมั่นใจได้ว่าระบบฐานข้อมูลของคุณจะมีความปลอดภัย เชื่อถือได้ และการจัดการที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม
แชร์บน: