วิธีการแก้ไขการตั้งค่าไฟล์บันทึกการเก็บถาวรของระบบใน Oracle อย่างมีประสิทธิภาพ

การปรับเปลี่ยนบันทึกสู่เก็บระบบอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกู้คืนข้อมูลและการจัดเก็บ โดยการปรับรูปแบบและเส้นทางของบันทึก รวมถึงการสำรองข้อมูลเป็นประจำ จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ความเชื่อถือได้ และการจัดการฐานข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

download-icon
ดาวน์โหลดฟรี
สำหรับ VM, OS, DB, ไฟล์, NAS, ฯลฯ
sea-kantapohn

Updated by ซี กันตภณ on 2025/12/22

สารบัญ
  • วิธีการแก้ไขการตั้งค่าไฟล์บันทึกการเก็บถาวรของระบบในฐานข้อมูล Oracle

  • ปกป้องฐานข้อมูลของคุณ ปลอดภัยให้ธุรกิจของคุณ

  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ไขการเก็บถาวรของระบบ

  • บทสรุป

ใน Oracle Database ไฟล์บันทึกเก็บถาวร (archive logs) เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือและการคงอยู่ของข้อมูล โดยเฉพาะเมื่อมีการสำรองข้อมูลและกู้คืนฐานข้อมูล เพื่อตอบสนองความต้องการในการสำรองข้อมูลและกลยุทธ์การจัดเก็บที่แตกต่างกัน ผู้ดูแลระบบมักจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบและเส้นทางการจัดเก็บของไฟล์บันทึกเก็บถาวร

การตั้งค่าพารามิเตอร์เหล่านี้อย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยปรับปรุงความสามารถในการกู้คืนจากความล้มเหลวของฐานข้อมูล แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรจัดเก็บข้อมูลอีกด้วย บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง archivelog ของฐานข้อมูล Oracle อย่างเป็นลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจสอบว่าฐานข้อมูลอยู่ในโหมด archive หรือไม่ การแก้ไขรูปแบบของบันทึกการเก็บถาวร การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการจัดเก็บบันทึกการเก็บถาวร และในที่สุดคือการรีสตาร์ทฐานข้อมูลเพื่อให้การตั้งค่าใหม่มีผล ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณสามารถจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายการบันทึกการเก็บถาวรสำหรับฐานข้อมูล Oracle ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการแก้ไขการตั้งค่าไฟล์บันทึกการเก็บถาวรของระบบในฐานข้อมูล Oracle 

ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบว่าฐานข้อมูลอยู่ในโหมดการเก็บถาวรหรือไม่

ยืนยันว่าเปิดใช้งานโหมดการเก็บถาวรในฐานข้อมูลแล้ว โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้:

SQL> archive log list;

ผลลัพธ์ควรจะมีลักษณะคล้ายกับสิ่งนี้:

Database log mode        Archive Mode
Automatic archival        Enabled                          
Archive destination        USE_DB_RECOVERY_FILE_DEST       
Oldest online log sequence     3
Next log sequence to archive     5
Current log sequence        5

ขั้นตอนที่ 2 เปลี่ยนรูปแบบไฟล์บันทึกเก่า

รูปแบบเริ่มต้นคือ %t_%s_%r.dbf มาเปลี่ยนรูปแบบเป็น %t_%s_%r.arch กัน ซึ่งเป็นพารามิเตอร์แบบคงที่ ดังนั้นจำเป็นต้องรีสตาร์ทฐานข้อมูลเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

ตรวจสอบรูปแบบปัจจุบันก่อน

SQL> show parameter log_archive_format;

คุณควรจะเห็นสิ่งที่คล้ายกับนี้:

NAME                                 TYPE        VALUE
------------------------------------ ----------- ------------------------------
log_archive_format                   string      %t_%s_%r.dbf<br>

จากนั้นใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อแก้ไขรูปแบบบันทึกเก็บ

SQL> alter system set log_archive_format='%t_%s_%r.arch' scope=spfile;

ขั้นตอนที่ 3 แก้ไขเส้นทางการบันทึก log

ตรวจสอบเส้นทางการบันทึก log ปัจจุบันก่อน

SQL> show parameter DB_RECOVERY_FILE_DEST;

ผลลัพธ์ควรแสดงดังนี้:

NAME                                 TYPE        VALUE
------------------------------------ ----------- ------------------------------
db_recovery_file_dest                string      /oracle/app/fast_recovery_area
db_recovery_file_dest_size           big integer 4182M

ถัดไป ให้แก้ไขเส้นทางการจัดเก็บบันทึกการจัดเก็บ:

SQL> alter system set log_archive_dest_1 = 'location=/data1/arch' scope=spfile;

ขั้นตอนที่ 4 เริ่มต้นฐานข้อมูลใหม่เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

หลังจากทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้ว ให้เริ่มต้นฐานข้อมูลใหม่เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงไปใช้ จากนั้นสลับบันทึก (logs) ด้วยตนเองเพื่อยืนยันว่ามีการสร้างอย่างถูกต้องหรือไม่:

alter system switch logfile;

ปกป้องฐานข้อมูลของคุณ ปลอดภัยให้ธุรกิจของคุณ

เมื่อจัดการและสำรองข้อมูลฐานข้อมูล สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจในความปลอดภัยและการกู้คืนข้อมูลของคุณ Vinchin Backup & Recovery มีโซลูชันการสำรองข้อมูลและการกู้คืนฐานข้อมูลที่ทรงพลัง รองรับฐานข้อมูลหลากหลายประเภท ได้แก่ Oracle DB, MySQL, SQL Server, PostgreSQL, Postgres Pro และ MariaDB ซึ่งช่วยปกป้องระบบฐานข้อมูลที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องจริงและเครื่องเสมือน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมใด

หนึ่งในจุดเด่นของ Vinchin คือกลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยลดขนาดของการสำรองข้อมูลฐานข้อมูลได้เกือบ 70% โดยไม่ต้องใช้ CPU ของสภาพแวดล้อมการผลิต คุณสมบัตินี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำรองอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการสำรองข้อมูล และลดผลกระทบจากการดำเนินการสำรองข้อมูลต่อประสิทธิภาพของระบบให้น้อยที่สุด

นอกจากนี้ Vinchin ยังรองรับการสำรองข้อมูลแบบฮ็อตที่มีประสิทธิภาพสำหรับ MySQL, SQL Server และ Oracle โดยรับประกันว่าการดำเนินงานปกติของฐานข้อมูลจะไม่ได้รับผลกระทบระหว่างกระบวนการสำรองข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการสำรองข้อมูลแบบเต็มรูปแบบ แบบต่าง แบบเพิ่มเติม หรือบันทึกธุรกรรม Vinchin มีกลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่ยืดหยุ่นให้คุณสามารถตั้งแผนการสำรองข้อมูลตามความต้องการจริงของคุณ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลและความต่อเนื่องทางธุรกิจ

การดำเนินงานของ Vinchin Backup & Recovery นั้นง่ายมาก เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ

1. เลือกฐานข้อมูลบนโฮสต์เท่านั้น

สำรองข้อมูลฐานข้อมูล Oracle

2. จากนั้นเลือกปลายทางสำหรับการสำรองข้อมูล

สำรองข้อมูลฐานข้อมูล Oracle

3. เลือกกลยุทธ์

สำรองข้อมูลฐานข้อมูล Oracle

4. ในที่สุด ส่งงาน

สำรองข้อมูลฐานข้อมูล oracle

Vinchin Backup & Recovery เป็นโซลูชันการสำรองข้อมูลฐานข้อมูลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจและองค์กรทุกขนาด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล เนื่องจากสามารถปกป้องความปลอดภัยของฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการสำรองข้อมูลได้อีกด้วย เพื่อช่วยให้คุณได้สัมผัสกับศักยภาพของผลิตภัณฑ์นี้ เราได้เตรียมทดลองใช้งานฟรี 60 วันไว้ให้ เพื่อให้คุณสามารถทดสอบการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง และสัมผัสกับความสามารถในการสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลด้วยตัวเอง

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือทดลองใช้งานฟรี โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา และเราจะให้บริการสนับสนุนทางเทคนิคและบริการระดับมืออาชีพ เพื่อช่วยให้คุณได้ใช้ประโยชน์จาก Vinchin Backup & Recovery ได้อย่างเต็มที่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ไขการเก็บถาวรของระบบ

คำถามที่ 1. การดำเนินการคำสั่งนี้มีผลต่อประสิทธิภาพของฐานข้อมูลอย่างไร?

การดำเนินการคำสั่งนี้จะทำให้ฐานข้อมูลหยุดพักการประมวลผลคำขอของผู้ใช้ชั่วคราว จนกว่าจะจัดเก็บบันทึกที่ระบุทั้งหมดเรียบร้อย สิ่งนี้อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงชั่วคราวหรือเวลาตอบสนองเพิ่มขึ้น

คำถามที่ 2. สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมการผลิตได้หรือไม่?

ได้ แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังในสภาพแวดล้อมการผลิตที่มีภาระงานสูง โดยควรใช้ในช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้

บทสรุป

การปรับเปลี่ยนการบันทึกประวัติระบบอย่างเหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการกู้คืนข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลได้ โดยการปรับรูปแบบและเส้นทางของล็อก และดำเนินการสำรองข้อมูลเป็นประจำด้วย Vinchin Backup & Recovery คุณสามารถมั่นใจได้ว่าระบบฐานข้อมูลของคุณจะมีความปลอดภัย เชื่อถือได้ และการจัดการที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม

แชร์บน:

Categories: Database Tips